การเปลี่ยนมาสูบไอช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

2022-12-05



ผลการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Circulation แสดงให้เห็นว่าผู้สูบบุหรี่ที่เปลี่ยนมาใช้การสูบไอโดยเฉพาะจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ถึง 34%


ทีมวิจัยใช้การติดตามผลในระยะยาว โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ใช้ยาสูบผู้ใหญ่ 32,000 รายที่เข้าร่วมในการประเมินประชากรยาสูบและสุขภาพ (PATH) ที่เป็นตัวแทนระดับประเทศในช่วงระยะเวลาหกปีตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2019 นักวิจัยได้ประเมินรูปแบบของการสูบไอ และการสูบบุหรี่ แล้วเปรียบเทียบกับกรณีโรคหลอดเลือดหัวใจที่พวกเขารายงานเอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย และภาวะหัวใจล้มเหลว

ข้อมูลที่รวบรวมได้แสดงให้เห็นว่าผู้สูบบุหรี่เมื่อเทียบกับผู้ไม่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูงกว่า 1.8 เท่า ในขณะที่ความเสี่ยงในการสูบไอเพียงอย่างเดียวไม่แตกต่างกันทางสถิติ ดังนั้นการศึกษาจึงสรุปได้ว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการสูบบุหรี่กับโรคหัวใจ แต่ไม่ใช่ระหว่างการสูบไอกับโรคหัวใจ

การย้อนกลับผลของการสูบบุหรี่
ในทางกลับกัน การศึกษาล่าสุดอีกเรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่า ความผิดปกติในการใช้ยาสูบและสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด รายงานว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ติดไฟได้ ยาสูบไร้ควัน และระบบนำส่งนิโคตินแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มอุบัติการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง นักวิจัยเสริมว่าผลกระทบที่เป็นอันตรายเหล่านี้สามารถย้อนกลับได้ค่อนข้างรวดเร็วหลังจากการถอนยา

ด้วยเหตุนี้ ทีมวิจัยจึงแนะนำวิธีการเลิกบุหรี่แบบดั้งเดิมมากขึ้น “การรักษาที่แนะนำสำหรับการเลิกบุหรี่ ได้แก่ การให้ยา การให้คำปรึกษา ควรเน้นย้ำถึงการลดความเสี่ยงอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นหลังจากการเลิกบุหรี่และการติดตามผลอย่างเพียงพอ”

ขณะที่การศึกษาที่รวบรวมข้อมูลของผู้ตอบแบบสอบถาม 175,546 คนที่เข้าร่วมการสำรวจสุขภาพแห่งชาติประจำปีระหว่างปี 2557 ถึง 2562 พบว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในแต่ละวันมีความสัมพันธ์กับอัตราการเกิดโรคหัวใจที่สูงขึ้นเฉพาะในกลุ่มคนที่ปัจจุบันสูบบุหรี่เป็นประจำด้วย นอกจากนี้ยังไม่พบหลักฐานที่แสดงถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ไม่เคยสูบบุหรี่

We use cookies to offer you a better browsing experience, analyze site traffic and personalize content. By using this site, you agree to our use of cookies. Privacy Policy